วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

5 วิธี ห่างไกลมะเร็ง


วันนี้ทางบล็อกมีบทความสำหรับคนรักสุขภาพมาฝากกันค่ะ หลายๆ คนคงไม่อยากจะเจ็บป่วย เรามีวิธีใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งมาฝาก เพราะมะเร็งเป็นแล้วต้องตาย ในความคิดของใครหลายๆ คน แต่ถ้าเรามาดูแลรักษาสุขภาพของเราตั้งแต่วันนี้ เราก็จะห่างไกลจากโรคมะเร็งแล้วค่ะ มาดูกันเลยค่ะ

1.ออกกำลังกายเป็นนิจ
โรคมะเร็งมีความสัมพันธ์กับการออกกำลังกาย  มีรายงานการวิจัยพบว่า  การออกกำลังกาย ช่วยลดอุบัติการณ์ของการเกิดโรคมะเร็ง  และโรคหัวใจได้  ความอ้วน ความเครียด เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง  การออกกำลังกายที่เหมาะสมเพียงพอช่วยคลายเครียด  และลดการสะสมแคลอรี่ (ไขมัน)  ในร่างกายได้
ข้อแนะนำ  ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ๆ ละ 30 นาที  และต่อเนื่อง
ควบคุมน้ำหนัก  ให้เหมาะสมตามดัชนีมวลกาย  Body Mass Index (BMI) 
สูตรการหาค่า BMI  =          น้ำหนัก (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร)^2      
น้ำหนักตัวพอดี                     BMI  18.5 - 25
น้ำหนักมากเกินไป               BMI  25 - 30
โรคอ้วน                               BMI  มากกว่า 30

2.ทำจิตแจ่มใส
ความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำ  และส่งเสริมการเกิดโรคมะเร็งได้  การทำจิตใจให้แจ่มใส ช่วยคลายเครียดและส่งเสริมภูมิต้านทาน  ทั้งทางร่างกายและจิตใจทำให้มีภูมิต้านทานโรคมะเร็งได้ด้วย  ร่างกายที่แข็งแรงต้องมาจากจิตใจที่เข้มแข็ง
ข้อแนะนำ  จิตแจ่มใส  ทำได้หลายวิธีด้วยกิจกรรมสันทนาการทุกรูปแบบ  การทำบุญตามวีถีแห่งศาสนา  ทัศนศึกษา  รวมถึงการออกกำลังกาย
เดินทางสายกลาง  และยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง

3.กินผักผลไม้
ในผัก ผลไม้ นอกจากจะมีสารต้านมะเร็งได้แก่ แอนตี้ออกซิแดนซ์  เช่น วิตามินเอ  ซี  อี  สารเบต้าแคโรทีน  สารไลโคปีน  สารไอโซฟลาโวนอยด์  หรีอเรียกรวมๆ กันว่า Dietary  Cancer Chemopreventive Agents และยังมีเส้นใยอาหาร (Fiber) ที่ทำหน้าที่คล้ายแปรงไปกระตุ้นผนังลำใส้ใหญ่ให้สร้างเมือก (Mucous) มากขึ้น  ทำให้เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับเยื่อบุผิวลำไส้ใหญ่และ ลดการเกิดโรคมะเร็งได้  การวิจัยผัก  ผลไม้  พบสารต้านมะเร็งและกระบวนการต้านมะเร็งและกระบวนการต้านมะเร็งได้ถึงระดับโมเลกุลหลายชนิด ได้แก่ ขิง ชาเขียว องุ่นแดง น้ำผึ้ง กระเทียม มะเขือเทศ แครอท กะหล่ำปลี และบรอคโคลี เป็นต้น 
ข้อแนะนำ  กินผัก ผลไม้ ให้ได้ครึ่งหนึ่งของปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ หรือ ประมาณ 500 กรัม/วัน หรือที่เค้าพูดกันว่า ผักครึ่งหนึ่งอย่างอื่นครึ่งหนึ่ง

4.อาหารหลากหลาย
ผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง  มากกว่า 1 ใน 3 มีความสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงทางด้านอาหารโดยเฉพาะการบริโภคอาหารที่มีพลังงานสูงและไขมันสูง  อาหารหมักดองเค็มและเนื้อสัตว์เค็มตากแห้ง ที่ใส่ดินประสิว โปแตสเซียมไนเตรท และสารไนไตรท์ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นสารไนโตรซามีน  ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง  อัฟลาทอกซิน จากอาหารที่มีเชื้อรา เช่น ถั่วลิสงคั่ว พริกแห้ง ทำให้เกิดมะเร็งตับได้  เนื้อสัตว์ปิ้ง ย่าง ทอด รมควัน ก็มีสารก่อมะเร็งเช่นกัน
ข้อแนะนำ  กินอาหารให้ครบ 5  หมู่ ไม่ซ้ำซากจำเจ  และใหม่สด สะอดา ปราศจากเชื้อรา  ลดอาหารที่มีไขมันสูง อาหารปิ้ง ย่าง ทอดที่ไหม้เกรียม เนื้อสัตว์สีแดง และอาหารหมักดอง   หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารดินประสิว และไนโตรซามีน

5.ตรวจร่างกายเป็นประจำ 
การตรวจร่างกาย ทำให้รู้ได้ว่าท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดใด  เพื่อเฝ้าระวังได้อย่างถูกต้อง  หากพบว่าเป็นมะเร็ง จะสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งสามารถรักษาได้ เพราะมะเร็งยังไม่ลุกลาม  แต่ถ้าหลายๆ ปีตรวจครั้งหนึ่ง  อาจพบมะเร็งในระยะลุกลามซึ่งรักษายาก  หรือรักษาไม่ได้  การป้องกันโรคมะเร็งไม่สามารถได้ผล 100 % ดังนั้นการตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มแรก จึงมีความสำคัญ
ข้อแนะนำ  หมั่นตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย ตามสัญญาณอันตราย 7 ประการ ของโรคมะเร็ง  อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจร่างกายประจำปีเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง

อย่าลืมนำไปปฏิบัติตามกันนะค่ะ เพื่อสุขภาพร่างกายของเราค่ะ 

ที่มา http://www.ruampol.com

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ของขวัญวาเลนไทน์มีความหมายว่าอะไรบ้าง ?


เนื่องวันนี้เป็นวันแห่งความรัก เราจึงไปสรรหาความหมายของของขวัญวาเลนไทน์มาฝากันค่ะ เผื่อว่าหลาย ๆ คนจะได้เลือกซื้อของได้ถูกตามความหมายที่อยากจะสื่อกับคนที่คุณรักนะค่ะ


ช็อกโกแลต
นักจิตวิทยาหลายคนเชื่อว่า  ช็อกโกแลตสามารถช่วยเสริมอารมณ์รักได้ และรสชาติความหวานก็เป็นสิ่งที่แทนความรู้สึกของวันแห่งความรักได้เป็นอย่างดี  และยังมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าในช็อกโกแลตมีสารกระตุ้นสมอง โดยออกฤทธิ์คล้ายแอมเฟตามีน  เป็นตัวเบิกความรู้สึกแห่งรักได้เป็นอย่างดี

ตุ๊กตา
เป็นสิ่งที่ให้กันได้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว  แต่สำหรับวันวาเลนไทน์ต้องพิเศษต้อนรับวันแห่งความรัก ควรเลือกให้น่ารัก น่าประทับใจแทนความหมายได้ทุกอารมณ์

การ์ด
เป็นของจำเป็นที่ควบคู่ไปกับดอกไม้และช็อกโกแลต  เลือกแบบที่ชอบ  แล้วเขียนความในใจแบบที่อยากให้คนที่ได้รับอ่านแล้วเข้าใจในจุดประสงค์การให้  หาซื้อได้ง่ายหรือทำเองก็ได้


ดอกไม้  คือตัวแทนการบอกรักที่ดีที่สุด
- กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ เป็นสิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ 
- กุหลาบขาว หมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ ความเงียบสงบ และนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับเช่นเดียวกับดอกกุหลาบแดง 
- กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ที่สุด
- กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรงและยาวนาน ไม่จืดจาง หวานชื่น และมีความสุข 
- กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย 
- กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น 

สําหรับคนที่อยากได้อะไรแตกต่างยังมีดอกอื่นๆ เช่น 
- ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง รักอย่างสุดซึ้ง, 
- ดอกลิลลี่สีขาว หมายถึง ความโรแมนติก อ่อนหวานระหว่างคุณและคนรัก,
- ดอกทิวลิปสีแแดง หมายถึง ความรักที่จะร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน 
- ดอกไวโอเล็ต ที่แทนความหมายของการให้รักตอบแทน

เทียนหอม 
มาแรงในหมู่หนุ่มสาวชาวไทย ที่สื่อได้ทั้งความหมายจากรูปทรงหัวใจ และให้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตามแต่ใครจะเลือกได้ถูกใจอีกฝ่ายแค่ไหน

ไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญใดๆ  บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องมีของขวัญราคาแพง ๆ เพียงแค่เรามีความตั้งใจ ความบริสุทธิ์ใจที่จะให้ ผู้รับก็ดีใจ และมีความสุขทุกคนแหละ ค่ะ สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะ 

ที่มา : http://www.ruampol.com





วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค



เรามีเคล็ดไม่ลับสำหรับวิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คให้ใช้งานได้นานขึ้น เพราะถ้าจะเปลี่ยนแต่ละทีก็หายากซะเหลือเกิน ไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

1.อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดไปเองเป็นอันขาด  คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยง และปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้ชาร์ตไฟอีกเป็นเวลานาน เพราะถ้าหากคุณทำเช่นนั้น แบตเตอรี่จะหมดไปถึงขีดขีดสุด จนอาจจะทำให้คุณไม่สามารถชาร์ตไปเข้าไปอีกได้ ดังนั้นควรชาร์ตไฟให้แบตเตอรี่ทันทีเมื่อระดับไฟในแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 10%  (ส่วนมากแล้วจะมีการเตือนเมื่อแบตเตอรี่จะหมด)  หรือชาร์ตไฟทันทีที่มีโอกาส เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟในแบตเตอรี่ถูกใช้ไปจนหมด

2..ถ้าหากคุณไม่ได้ใช้เครื่องนานๆ ให้ชาร์ตไฟเก็บไว้อย่างน้อย 40% ถ้าคุณจำเป็นจะต้องทิ้งเครื่องไว้ไม่ใช้งานเป็นเวลานาน เป็นเวลาหลายเดือน เช่น การเดินทางไปต่างประเทศ หรือ ซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่มาใช้แทนตัวเก่า ขอแนะนำให้ชาร์ตทิ้งไว้ประมาณ 40-50% ก่อนที่คุณจะทิ้งเครื่องไว้โดยไม่ได้ใช้อีกนาน ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบของการขาดช่วงการชาร์ตแบตเตอรี่ไว้ให้น้อยที่สุด และมีโอกาสชาร์ตไฟเข้าแบตเตอรี่ได้สำเร็จเมื่อคุณกลับมาใช้เครื่องอีกครั้ง

3.ไม่ควรทำงาน หรือใช้โน๊ตบุ๊คในที่อุณหภูมิสูงเกินไป ปกติระดับอุณหภูมิที่แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คจะทำงานได้ดีที่สุดคือระดับอุณหภูมิห้อง หรืออยู่ระหว่างช่วง 10 ถึง 35 องศาเซลเซียล ดังนั้นคุณจึงควรนั่งทำงานในห้องที่มีระดับอุณหภูมิดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะเมื่อคุณทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน  (ที่จริงควรมีพัดลมระบายความร้อนให้โน๊ตบุ๊คด้วยจะดีมาก) จริงๆ แล้วคุณสามารถทำงานในห้องที่ร้อนหรือหนาวกว่านั้นได้ แต่ให้จำไว้ว่ายิ่งทำงานในห้องที่มีความร้อนสูงขึ้นเท่าไหร่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็ลดลงไปด้วยเป็นเงาตามตัว

4.ไม่ควรทิ้งเครื่องไว้ในกระโปรงท้ายรถ หรือในที่ที่ร้อนเกินไป ตามที่กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวกับผลกระทบของความร้อนสะสมกับแบตเตอรี่ ที่ถึงแม้จะมีความร้อนไม่สูงนัก แต่ก็ยังมีผลทำให้อายุการทำงานของแบตเตอรี่เป็นอย่างมาก ดังนั้นการทิ้งเครื่องไว้ในที่อุณหภูมิสูงกว่านั้นมาก เช่น ในกระโปรงท้านรถที่ทิ้งไว้กลางแดดติดต่อกันเป็นเวลานานก็ย่อมจะมีผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่อย่างรุ่นแรงเช่นเดียวกัน คุณจึงต้องคอยระมักระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยหลีกเลี่ยงให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด


5.การใช้ครั้งแรกต้องชาร์ตอย่างน้อย 8 ชั่วโมง สิ่งแรกที่คุณจะต้องจำไว้เลยทุกครั้งที่ได้โน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่มาก็คือ คุณจะต้องไม่เปิดใช้งานทันที เพราะแบตที่มีอยู่นั้นไม่ได้ถูกชาร์ตมาเพื่อให้เปิดใช้ได้นานพอ แต่จะต้องชาร์ตแบตเตอรี่ให้เต็มและปล่อยให้ชาร์ตทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงติดต่อกัน ทั้งนี้เพื่อให้ชิปภายในตัวแบตเตอรี่มีการตั้งระดับค่าไฟที่ชาร์ตเต็มได้อย่างถูกต้อง และสามารถตัดไฟไม่ให้ชาร์ตได้ทันทีที่แบตเตอรี่ถูกชาร์ตเต็มไปแล้ว

6.อย่าเสียบปลั๊กชาร์ตแบตเตอรี่ไว้ตลอดเวลา บางท่านอาจจะชอบลืมเสียบปลั๊กชาร์ตไว้ตลอดทั้งคืน หรือไม่เคยดึงปลั๊กออกเลยทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน การทำเช่นนี้อาจจะทำให้ระดับการชาร์ตไฟเต็มลดลง เพราะชิปภายในแบตเตอรี่ได้ตัดไฟไม่ให้ชาร์ตตั้งแต่เมื่อแบตเตอรี่ถูกชาร์ตเต็มไปแล้ว แต่ความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นต่างหากที่เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้ประสิทธิภาพให้การชาร์ตไฟเข้าลดลงไปเรื่อยๆ

ที่มา : http://www.ruampol.com