วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความเชื่อ....กับคนท้อง


สังคมบ้านเรามักมีความเชื่อมากมายหลายความเชื่อ บางครั้งเราก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าความเชื่อนั้นเป็นจริงหรือไม่  บางความเชื่อก็ฟังดูเกินความจริงไปบ้าง  แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงอะไร เพราะคนเราสมัยนี้ก็ถือว่า โบราณว่าไว้ เค้าอาบน้ำร้อนมาก่อนเรา จริงมั้ยค่ะ วันนี้เรามีความเชื่อเกี่ยวกับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องมาฝากกันค่ะ ว่ามีความเชื่อเรื่องอะไรบ้าง และเรื่องไหนที่ควรปฏิบัติตามหรือเรื่องไหนที่อาจจะรับฟังไว้เฉยๆ 


1.กินน้ำมะพร้าวแล้วจะทำให้ลูกผิวสวย
เป็นความเชื่อที่มีคนปฏิบัติตามกันเป็นจำนวนมาก  คุณแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกออกมามีผิวดีกันทุกคนใช่มั้ยค่ะ  มาดูความจริงกันค่ะ น้ำมะพร้าวเป็นน้ำผลไม้ที่มีความบริสุทธิ์ และมีแร่ธาตุมากมาย เช่น เหล็ก โพแทสเซียม วิตามินบี  แคลเซียม กรดอะมิโน น้ำตาลกลูโคส ซึ่งเจ้ากลูโคสนี้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว และยังมีฤทธิ์ขับสารพิษอีกด้วย ในน้ำมะพร้าวยังมีเอสโตรเจนที่เข้าไปทำให้ผิวพรรณสดใส  ฉะนั้นการที่คุณแม่ดื่มน้ำมะพร้าวอาจจะไม่ได้หมายถึงว่าลูกจะต้องออกมาผิวสวย แต่ก็เจ้าน้ำมะพร้าวก็มีข้อควรระวังนะค่ะ สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะโรคเบาหวาน เพราะในน้ำมะพร้าวมีความหวานจากน้ำตาล ฉะนั้นคุณแม่ก็ควรดื่มด้วยความระมัดระวังนะค่ะ 


2.อัลตร้าซาวนด์ไม่ดีจริงหรอ
การอัลตร้าซาวนด์เป็นการส่งคลื่นเสียงเข้าไปกระทบภายในท้อง และคลื่นเสียงนั้นก็สะท้อนกลับมาสู่การประมาลผลออกมาเป็นภาพให้เราเห็นว่าลูกน้อยมีการเจริญเติบโตปกติหรือไม่  สามารถคำราณอายุลูกได้ค่อนข้างแม่นยำ และจาก 50 ปีที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีรายงานใดๆ ว่าการอัลตร้าซาวนด์จะเป็นอันตรายต่อลูกน้อย


3.คุณแม่หน้าผ่องได้ลูกสาว  คุณแม่หน้าหมองได้ลูกชาย
ตามปกติแล้วเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันออกไป  บางคนมีฝ้าขึ้นหน้า สิวขึ้นจากที่ไม่เคยมีหรือมีรอยดำรอบคอ  บางคนก็ไม่มีเลย แต่อาจจะมีอาการอื่นๆ แทน  ซึ่งไม่เกี่ยวกับเพศของลูกในท้องแต่อย่างใด  การที่คุณแม่จะมีหน้าตาสดใสหรือไม่นั้น  บางครั้งก็อาจจะขึ้นอยู่กับความวิตกกังวล การดูแลตนเองช่วงตั้งครรภ์ด้วยค่ะ แม้ว่าคุณแม่จะตั้งคครภ์ลูกขาย แต่มีความสุข กินอาหารดีๆ อันนี้ก็รับรองได้เลยว่าหน้าของคุณแม่จะไม่หมองคล้ำตามความเชื่อแน่นอนค่ะ


4.ห้ามเย็บปัก ถักร้อย
ด้วยความเชื่อที่สืบทอดกันมาว่าถ้าเย็บผ้าระหว่างตั้งครรภ์ จะทำให้ลูกปากแหว่งเพดานโหว่ แต่โรคปากแหว่งเพดานโหว่ในเด็กแรกเกิดนั้น แม้จะยังไม่มีผลแน่ชัดว่าเกิดจากอะไรแน่ แต่ก็มีการวิจัยว่า บางส่วนเกิดจากพันธุุกรรม และที่แน่ๆ คือการพัฒนาของตัวอ่อนในช่วง 3 เดือนแรกมีความผิดปกติ  และอีกงานวิจัยคือ การที่คุณแม่แสูบบุหรี่มีผลทำให้ลูกเพดานโหว่กว่าแม่ที่ไม่สูบถึง 3 เท่า แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่บอกว่า สาเหตุที่แท้จริงเกิดจากการเย็บผ้าระหว่างตั้งครรภ์  ถึงยังไงคำเตือนโบราณก็น่าคิดว่า อาจจะให้คุณแม่ระมัดระวังในการทำงานด้านนี้ เพราะต้องนั่งทำงานนานๆ ก้มๆ เงยๆ ทำให้หน้ามืดเวียนหัวได้ง่าย  หรือการเย็นจักร ก็อาจจะไม่เป็นผลดีต่อคุณแม่ที่สุขภาพไม่ค่อยดีนัก แต่ถ้าคุณแม่ที่มีความระมัดระวังตนเองก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องนี้นะค่ะ


5.นอนมากจะคลอดยาก
ความเชื่อนี้มักจะใช้ได้ผลเสมอ  เชื่อคุณแม่ทุกคนจะได้คนรอบข้างพูดให้ฟังเสมอว่าการคลอดลูกนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและทรมานที่สุด  คำโบราณนี้จึงใช้ได้ผลกับคุณแม่ตั้งครรภ์เสมอ  แต่ที่จริงแล้วการคลอดเป็นกลไกธรรมชาติ ความยากง่ายนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเรื่องตำแหละของลูกน้อย ขนาดของลูกน้อย สรีระ  และความแข็งแรงของแม่ด้วย  ดังนั้น ถ้าแม่นอนมากเกินไป จนไม่ได้ออกกำลังกาย ก็อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มมากเกิน (หรืออ้วนมากนั้นเอง) การคลอดก็ยากตามไปด้วย แต่ถ้าได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ร่างกายก็จะมีกำลังและความอดทนมากขึ้นต่อการคลอดลูกนั้นเองค่ะ


6.ห้ามนั่งขวางบันได
หลายคนอาจเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่บอกว่า อย่านั่งขวางบันได จะทำให้คลอดลูกยาก ใครฟังก็ต้องกลัวจริงมั้ยค่ะ เพราะการคลอดลูกยากคือการที่ต้องทานกับความเจ็บปวดอันยาวนาน และอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ เพราะสมัยก่อนการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้า แต่ความจริงคือบ้านในสมัยก่อน มักจะเป็นบ้านชั้นเดียว แล้วยกใต้ถุนสูงบันไดบ้านก็ค่อนข้างชัน ถ้าไปนั้งขวางบันไดอาจพลัดตกลงมาเกิดอันตรายได้ง่าย  โดยเฉพาะถ้าท้องใหญ่ใกล้คลอดการทรงตัวจะไม่ดีเท่าคนปกติ ยิ่งไม่ควรนั่ง เมื่อลองเอาความเชื่อกับหลักความเป็นจริงมาคิดดูว่าทำให้คลอดยากนั้น ก็ไม่น่าจะเป็นความจริงค่ะ


7.คนท้องต้องลอดท้องช้าง
คนสมัยก่อนมีความเชื่อว่าถ้าตั้งครรภ์อยู่แล้วได้ลอดท้องช้างจะทำให้คลอดง่าย แต่ถ้ามาคิดหาเหตุผลในสมัยนี้แล้ว การเดินลอดท้องช้างไม่ได้มีผลต่อการคลอดใดๆ เลย อย่างที่เคยพูดไปในข้อที่แล้วนะค่ะ ว่าความยากง่ายในการคลอดนั้นขึ้นอยู่กับอะไร อาจเป็นไปได้ว่าที่มาของความเชื่อนี้คือช้าง เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยมาช้านาน คนไทยจึงนับถือเป็นสิริมงคลกับตัวนั่นเองค่ะ 

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะค่ะ  แต่ยังมีความเชื่ออีกหลายข้อเลยนะค่ะ ที่คนไทยเค้าเชื่อและยึดถือปฏิบัติกันมาอย่างช้านาน  แต่ขอเอาไว้พรุ่งนี้นะค่ะ 

ที่มา : http://www.ruampol.com






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น