วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความเชื่อ...กับคนท้อง Part 2



วันนี้เรามาต่อจากเมื่อวานที่ค้างเอาไว้นะค่ะ เกี่ยวกับความเชื่อกับคนท้อง ไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่คนโบร่ำโบราณเค้าเชื่อว่าคนท้องต้องทำ หรือไม่ทำ



1.ห้ามเตรียมของใช้เด็กไว้ก่อน  ความเชื่อนี้ยังไม่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเลยทีเดียวนะค่ะ เพราะความเชื่อนี้ให้เหตุผลว่าจะเป็นลางไม่ดี  แต่ถ้ามองดูตามหลักเหตุและผลแล้ว มันไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับสุขภาพหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เลยแต่อย่างใด  ความเชื่อนี้อาจมาจากสมัยก่อนการคลอดลูกมีความเสี่ยงสูงจึงไม่อยากให้เตรียมของเด็กเอาไว้มากนัก อาจเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุเปล่าๆ เพราะบางอย่างเตรียมไว้ก็ไม่ได้ใช้  เด็กทารกแรกคลอดมีของที่ต้องใช้ไม่กี่อย่างเองค่ะ เช่น ผ้าอ้อม เสื้อผ้าเด็กอ่อน น้ำยาซักผ้า ประมาณนี้เองค่ะ และอีกอย่างเด็กโตเร็วด้วยค่ะ ซื้อไว้มากเด๋วจะใส่ไม่ได้เอา

2.ห้ามนอนหงายเด๋วรกจะติดหลัง  คำเตือนนี้ถูกต้องค่ะ โดยเฉพาะคุณแม่ท้องแก่  แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุผลรกติดหลังนะค่ะ  เพราะการนอนหงาย จะทำให้มดลูกของคุณแม่ไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง ทำให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกน้อยลง อาจเกิดอันตรายต่อแม่และลูกน้อยได้ค่ะ ดังนั้นคุณแม่ควรนอนตะแคง ท่านอนตะแคงที่สบายและปลอดภัยที่คือ นอนตะแคงซ้ายนะค่ะ ส่วนรกนั้นไม่มีทางที่จะติดหลังได้หรอกค่ะ รกอยู่ในมดลูก แต่จะมีรกเกาะต่ำที่เป็นอันตราย

3.ห้ามไปงานศพ อันนี้โบราณเค้าถือมากค่ะ บางคนเค้าอาจได้ยินมาว่าเด๋วผีเข้า แต่ความจริงแล้วงานศพ เป็นงานเศร้าหมอง ผู้ร่วมงานมักจะหดหู่จากการสูญเสียญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนรู้จัก ถ้ามีคนที่ตั้งครรภ์ไปร่วมงานก็อาจจะทำให้รู้สึกเศร้าตามไปด้วย ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพจิตของคุณแม่นะค่ะ ผู้ใหญ่เลยไม่อยากให้คนท้องไปร่วมงานนั้นเอง



4.ท้องแหลม...ท้องกลม  อันนี้คนโบราณเอาไว้ทายเพศของลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ค่ะ ถ้าท้องแหลมแสดงว่าได้ลูกชาย  ท้องกลมได้ลูกสาวค่ะ  บางคนอาจดูจากสะดือจุ่น สะดือคว่ำ แต่รูปร่างของท้องที่ใหญ่ขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของมดลูกและกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณแม่แต่ละคนนะค่ะ เพศของลูกนั้นไม่ได้มีผลต่อรูปร่างท้องของแม่เลยค่ะ

5.กินเฉาก๊วยลูกผิวดำ...กินน้ำมะพร้าวลูกจะผิวขาว  ความเชื่อนี้อาจมาจากเนื้อมะพร้าวสีขาว เฉาก๊วยสีดำก็เลยกลัวว่ากินมากจะทำให้ลูกมีสีผิวตามนั้น  แต่อาหารก็คืออาหารอยู่ดีแหละค่ะ ไม่ได้มีผลอะไรกับสีผิวของลูกน้อยเลย เพราะสีผิวของคนเราขึ้นอยู่กับเม็ดสี ที่เป็นไปตามกรรมพันธุ์ ดังนั้นถ้าคนในครอบครัวผิวเข้ม ต่อให้คุณแม่ดื่มน้ำมะพร้าวเท่าไหร่ลูกน้อยก็คงเลี่ยงไม่พ้นผิวสีเข้มเหมือนเดิมแหละค่ะ 

6.ฤกษ์งามยามคลอด  เรื่องฤกษ์ยามนั้นถือว่าคนไทยยึดถือปฏิบัติกันมาช้านานแล้วนะค่ะ แต่เรื่องเด็กจะคลอดอั้นไว้ยังไงก็ไม่อยู่นะค่ะ  เด็กจะเป็นคนดี หรือจะเกเรไม่ได้อยู่ที่ฤกษ์ยามในการคลอดหรอกค่ะ แต่อยู่ที่การเลี้ยงดู และปัจจัยอื่นๆ มากกว่าค่ะ แต่การถือฤกษ์ยามก็มีข้อเสียเหมือนกันนะค่ะ เช่น ถ้าได้ฤกษ์ช่วงกลางดึก  คุณหมอที่ทำคลอดก็จะต้องอยู่ดึก อาจจะไม่สะดวกเป็นการปลูกฝังความเชื่อที่ไม่มีมูลเหตุว่าตอ้งเป็นเวลานี้ให้กับตัวเองและลูกน้อยตั้งแต่ยังไม่เกิดกันเลยค่ะ 


7.ผ่าคลอดดีกว่า  อันนี้เป็นความเชื่อตามยุคสมัยนะค่ะ เพราะเมื่อก่อนการผ่าคลอดนั้นค่อนข้างจะอันตราย แต่ด้วยความเจริญทางการแพทย์ และความเข้าใจผิดของคุณแม่ทำให้สถิติการผ่าคลอดสูงขึ้นมาก จนทำให้หลายคนเชื่อกันว่าผ่าคลอดดีกว่าคลอดแบบธรรมชาติ  แต่ความจริงแล้วการผ่าคลอดจะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณแม่มีความจำเป็น ที่ไม่สามารถคลอดเองได้ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อแม่และลูกน้อย เช่น ลูกอยู่ในท่าขวาง แม่มีโรคแทรกซ้อน หรือแม่มีโรคประจำตัวบางอย่าง  ถึงแม้ปัจจุบันการผ่าคลอดจะมีความอันตรายน้อยกว่า แต่แผลจากการผ่าคลอดนั้นจะเจ็บนานกว่า และคุณแม่อาจจะท้อเวลาให้นมลูก และการผ่าคลอดมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการคลอดแบบธรรมชาตินะค่ะ

8.กินยาบำรุงแล้วจะอ้วน  คุณแม่หลายคนเชื่อว่าการกินยาบำรุงนั้นจะทำให้อ้วน เมื่อคลอดแล้วจะลดยาก แต่ความจริงแล้ว ยาบำรุงที่คุณหมอให้คุณแม่มาทานนั้น จะเป็นวิตามิน ธาตุเหล็ก ไม่ใช่ยาที่ทำให้คุณแม่กินเก่ง แต่เป็นยาที่เข้าไปช่วยเสริมส่วนที่ขาดไป เพราะช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ร่างกายจะมีการผลิตเลือดเพื่มขึ้น จึงทำให้ร่างกายต้องการสารอาหาร และวิตามินเพื่อบำรุงร่างกายทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อย  ถ้าคุณแม่ไม่อยากอ้วนทางที่ดี ควรกิรอาหารที่ดี กินให้สมดุล เน้นพวกโปรตีน ผัก ผลไม้ ควรหลีกเลี่ยงขนมหวานและอาหารที่มีไขมันเยอะๆ เมื่อคลอดแล้วก็ควรออกกำลังกายแต่พอเหมาะ กินอาหารที่มีประโยชน์  แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะลดได้เหมือนกันหมดนะค่ะ ต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานรูปร่างของแต่ละคนด้วยค่ะ 

หมดแล้วคะ สำหรับความเชื่อกันคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ความเชื่อบางอย่างก็ควรที่จะปฏิบัติตามนะค่ะ แต่ถ้าบางอย่างทำแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ก็อย่าทำเลยค่ะ เอาแบบที่เราถนัด ตามใจตัวเองดีที่สุดค่ะ เพื่อสุขภาพจิตของคุณแม่ค่ะ 

ที่มา : http://www.ruampol.com




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น